ติดต่อเราได้ที่
icons8-cell-phone-40 086-564-5326 icons8-cell-phone-40 02-003-4318
Tuesday, 21 Jan 2025
การทำงานและ สรรพคุณของ Back Support

image001 image002

 

ในปัจจุบันมีผู้ผลิต Back Support ซึ่งก็คือเครื่องพยุงหลัง หรืออุปกรณ์พยุงหลัง ออกมาเป็นจำนวนมาก แต่ที่มีขายในเมืองไทยอาจมีรูปแบบที่ไม่หลากหลายมากนัก จึงทำให้เรารู้สึกว่ามีอยู่น้อย ที่ผลิตออกจากหลากหลายประเทศ ก็มีรูปร่างต่างกันไปตามวัตถุประสงค์ เช่น บางประเภทช่วยแก้เรื่องกระดูกสันหลังคดช่วยปรับท่าทางในการทำงานให้เหมาะสมช่วยกระชับกระดูกกระเบนเหน็บและบั้นเอวบางประเภทก็แค่ช่วยพยุงหลังส่วนล่างและช่องท้องซึ่งออกแบบต่างกันตามการใช้งานทั้งในแบบมีอาการและผู้ยังไม่มีอาการ ในระยะก่อนเกิดการบาดเจ็บ และหลังเกิดการบาดเจ็บ สำหรับผู้มีอาการปวดหลัง  back support ที่ควรใช้จะมีหลักการทำงานคือ ลดช่วงการเคลื่อนไหวให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำให้ผู้ป่วยไม่มีอาการบาดเจ็บมากขึ้นสำหรับผู้ยังไม่มีอาการปวดหลังแต่ต้องการใช้เพื่อป้องกัน back support จะถูกออกแบบมาเพื่อให้เกิดการเคลื่อนไหวได้มากที่สุดเท่าที่จะไม่ก่อให้เกิดอาการปวดหลังจากการทำกิจกรรมที่มีความเสี่ยง เช่น การก้มเงยซ้ำ ๆ ร่วมกับการยกของหนัก การทำงานบนเครื่องมือที่มีแรงสั่นสะเทือนสูงเกิดขึ้นกับหลัง การนั่งนาน ๆ ในท่าที่ไม่ถูกต้อง (ในกรณีนี้ back support ที่ใช้กันทั่วไป ก็อาจเป็นเพียงแผ่นรองหลังที่ออกแบบมาเพื่อช่วยพยุงแนวกระดูกสันหลังให้อยู่ในแนวปกติ หรือเพื่อช่วยคงท่าทางการนั่งที่ถูกต้อง) ส่วนใหญ่ได้รับการออกแบบตามหลักการยะศาสตร์(Ergonomics) เพื่อใช้งานได้เหมาะกับกลุ่มคนที่ทำงานและมีรูปร่างต่างกัน

 

ส่วนใหญ่ที่พบในบ้านเราและแพทย์สั่งให้ใช้สำหรับผู้มีอาการปวดหลังแล้วมักเป็นรูปแบบของแผ่นผ้าแบบยืดหยุ่นได้และไม่ยืดหยุ่น โดยมากเป็นผ้าชิ้นเดียว บางยี่ห้อเป็นผ้า 2 ชิ้น และมีแถบรัดหรือเชือกรัดไว้กับลำตัวทำหน้าที่ยึดช่วงเอวและกระดูกสันหลังส่วนล่างไม่ให้เคลื่อนตัวออกจากกันมากเกินไปทั้งในแนวดิ่งและขวางใช้เมื่อผู้ป่วยมีอาการปวดหลังแบบเฉียบพลันจากอุบัติเหตุหรือหลังได้รับการผ่าตัดโดยเฉพาะเมื่อมีหมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อน หรือกระดูกสันหลังแตกหัก ในกรณีหมอนรองกระดูกสันหลังช่วงล่างเคลื่อนในระยะเฉียบพลัน ถ้าใส่ support ร่วมกับการรักษาทางยาและกายภาพบำบัดแล้วมีอาการโดยรวมดีขึ้น ส่วนใหญ่แพทย์จะไม่แนะนำให้ผ่าตัดแต่ก็มีข้อจำกัดอยู่บ้างในกรณีที่ผู้ป่วยมีโครงสร้างร่างกายไม่สมมาตร(Asymmetry) เช่น ระดับกระดูกเชิงกรานไม่เท่ากัน ความยาวขาต่างกัน การใช้ support ที่ออกแบบมาสำหรับคนส่วนใหญ่ที่มีโครงสร้างร่างกายปกติก็อาจให้ผลต่างกันอาจต้องไปแก้ไขเรื่องความไม่สมมาตรด้วย

 

สำหรับผู้มีอาการปวดหลังการทำงานของ back supportหลัก ๆ ก็คือการป้องกันการเคลื่อนไหว(immobilization)  ตามลักษณะการออกแบบของตัว back support ที่มีทั้งแถบผ้าที่รัดบริเวณหน้าท้อง และโครงเหล็กเส้นยืนที่ช่วยพยุงแนวกระดูกสันหลัง เพื่อป้องกันการทรุดตัวในแนวดิ่ง หรือการเคลื่อนตัวของหมอนรองกระดูกออกจากแนวปกติพร้อมกับช่วยป้องกันการเกิดแรงดันขึ้นในช่องท้องเมื่อก้มตัวมากเกินไป หรือเมื่อไอแรง การออกแบบในส่วนมีลูกเล่นมากขึ้นสำหรับผู้สวมใส่ที่ต้องการใส่ไว้นอกเสื้อผ้าหรือเครื่องแบบที่ต้องใส่ในชีวิตประจำวันทั้งในเรื่องสีสัน รูปแบบ ที่ไม่มีเส้นเชือกระโยงระยางเหมือนแบบโบราณ อีกทั้งยังใช้วัตถุดิบที่ให้ความกระชับมากขึ้น แต่ก็มีความยืดหยุ่นดี ทำให้ผู้ใช้ไม่รู้สึกอึดอัดจนเกินไป โดยยังคงสรรพคุณในการป้องกันการเคลื่อนไหวซึ่งเป็นหน้าที่หลักอยู่  ผู้ใส่จะรู้สึกปลอดภัยขึ้น พร้อม ๆ กับระวังมากขึ้นเมื่อต้องทำกิจวัตรประจำวันต่าง ๆการใส่ support ในระยะยาวเพื่อช่วยปรับแนวกระดูกสันหลังก็อาจจะยังปฏิบัติกันอยู่สำหรับผู้ป่วยที่มีกระดูกสันหลังคดในระดับที่สูงขึ้นไปจากหลังส่วนล่าง แต่ในปัจจุบันหลักการออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อหลัง และกล้ามเนื้อหน้าท้อง ให้ทำงานร่วมกันในการพยุงแนวกระดูกสันหลัง ร่วมกับการขยับเขยื้อนข้อต่อจะเป็นที่นิยมกว่าการใช้เครื่องป้องกันการเคลื่อนไหวในระยะยาว

 

ถ้าค้นข้อมูลเพิ่มเติมทาง internet ใส่คำว่า back support ก็จะพบว่ามี support อยู่มากมายหลายรูปแบบ ทั้งสำหรับหลังส่วนบน ส่วนกลาง และล่าง แบบไม่ยึดติดกับลำตัว แบบใช้ในการทำงาน เล่นกีฬา ฯลฯ มากมายจริง ๆ ก็เพื่อให้เลือกใช้ได้ตามความเหมาะสมนั่นเอง ส่วนอุปกรณ์ที่เพิ่มระดับการป้องกันการเคลื่อนไหว (immobilization) ให้มากขึ้นกว่า support จะเรียกว่า เกราะ  (Brace)

 

ผลเสียหรือผลข้างเคียง

 

การใช้supportในระยะยาวโดยไม่ได้ออกกำลังกายหรือเคลื่อนไหวในช่วงการเคลื่อนไหวปกตินาน ๆ มักทำให้เกิดการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อ บางครั้งแทนที่จะทำให้เกิดผลดี กลายเป็นผลเสียที่ต้องแก้ไขเพิ่มเติมได้ เช่น ผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดหมอนรองกระดูกสันหลัง และใส่ back support เป็นเวลานาน มักรู้สึกไม่ปลอดภัย เมื่อต้อง ยืนเดินหรือนั่งโดยไม่มีสิ่งผูกรัดหน้าท้องและหลัง ทั้ง ๆ ที่ไม่มีอาการปวดแล้ว บางรายอาการปวดหายไปแต่เคลื่อนไหวช่วงหลังไม่ได้ตามปกติเพราะ เกิดการยึดติดของกระดูกสันหลังบางระดับ บางรายเกิดการฝ่อลีบของกล้ามเนื้อที่ช่วยพยุงกระดูกสันหลัง และเกิดการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อหน้าท้อง ทำให้กระดูกสันหลังในระดับอื่น ๆ เสียความมั่นคง (instability) ส่งผลให้เกิดการเคลื่อนตัวของหมอนรองกระดูกสันหลังซ้ำได้อีกในระดับเดิม หรือระดับอื่น ๆ บางรายที่ใส่ support นาน ๆ จนติดและคิดว่าจะช่วยป้องกันไม่ให้หมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อนได้ ก็ต้องพบว่าไม่เป็นความจริง เพราะในบางเวลาที่ไม่ได้ใส่เครื่องพยุง เช่น ขณะอาบน้ำ แล้วก้มลงเก็บสบู่ที่ตก ก็อาจเกิดการเคลื่อนตัวของหมอนรองกระดูกเฉียบพลันได้ เนื่องจากกล้ามเนื้อที่ช่วยพยุงหลังไม่ทำงาน เพราะสั่งสมความอ่อนแรงและขาดการออกกำลังมาเป็นเวลานาน

 

จริงอยู่ว่า back support ช่วยป้องกันการเคลื่อนไหว ช่วยลดการเคลื่อนไหว หรือเพิ่มความรู้สึกมั่นคงให้แก่ส่วนหลัง แต่สำหรับผู้ที่ต้องใช้มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทราบหลักการทำงานของ back support และหลักการปฏิบัติตัวที่เหมาะสมด้วย เช่น การฝึกออกกำลังกล้ามเนื้อหน้าท้อง ควบคู่ไปกับการออกกำลังกล้ามเนื้อโดยรอบกระดูกสันหลัง และ การค่อย ๆ เลิกใช้เครื่องพยุง เมื่อกล้ามเนื้อที่ต้องใช้ในการพยุงและเสริมสร้างความมั่นคงให้แก่หลังทำงานได้ดีในระดับหนึ่ง ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความไม่มั่นคงของกระดูกสันหลังในระดับอื่น ๆ อันเป็นผลจากการมีภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรง และภาวะยึดติดของกระดูกในระดับที่ต่อเนื่องกัน ผลข้างเคียงของการใช้ support หรือ brace แต่ละประเภท มักหนีไม่พ้นเรื่องการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อ และการยึดติดของข้อต่อ แต่ก็มีผลที่ซับซ้อนเกี่ยวกับอวัยวะภายในได้ในบางกรณี เช่น ผู้ป่วยบางรายที่ใช้ brace เป็นเวลานานเพื่อช่วยลดปัญหากระดูกสันหลังคดระดับอกอาจพบภาวะแทรกซ้อนซึ่งเกิดจากปอดทำงานได้ไม่เต็มที่ เนื่องจากถูกจำกัดการเคลื่อนไหวมากเกินไป เพราะการออกแบบให้ใช้รัดช่องอกและกระดูกสันหลัง ผู้ออกแบบในปัจจุบันได้พัฒนารูปแบบ support และ brace ให้ช่วยลดผลเสียลงได้มากกว่ารูปแบบที่มีในอดีต